Mina

Mina

วันอังคารที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2555

Semi - Speaking - Making and Answering a Phone Call

Making and Answering a Phone Call
การโทรศัพท์และรับโทรศัพท์


เนื่องจากเทคโนโลยีมีการพัฒนาขึ้นทุกวัน ทำให้การสื่อสารทางโทรศัพท์มีความสำคัญมากขึ้นไปด้วย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้ภาษาในการโต้ตอบให้ถูกต้องและสุภาพ และสื่อสารให้ประสบความสำเร็จ โดยปกติการสื่อสารทางโทรศัพท์ก็เป็นการสื่อสารสองทางเหมือนการสนทนาทั่วไป เพียงแต่เป็นการสื่อสารที่ไม่เห็นหน้า อย่างไรก็ดี จะประกอบด้วยสองฝ่ายคือ ผู้ที่โทรเข้ามาหรือ Caller และผู้ที่รับสายหรือ Receiver

บทสนทนาทางโทรศัพท์จะเริ่มด้วยการที่ฝ่ายหนึ่งโทรเข้ามา โดยอาจเริ่มด้วยการกล่าวทักทายและแนะนำตัว ว่าชื่ออะไร เป็นใคร มาจากไหน หรืออาจแจ้งความประสงค์ว่าต้องการพูดกับใคร

การกล่าวทักทาย

    Hello. / Hi.
    สวัสดี

    Good morning. / afternoon. / evening./
    สวัสดีตอนเช้า / กลางวัน / เย็น

การแนะนำตัว

   Taylor speaking.
   Taylor พูดครับ

   This is Catherine, from Planetaria’s.
   นี่ Catherine พูดค่ะ

ในกรณีของผู้รับก็เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากเป็นสถานการณ์ที่เกี่ยวกับธุรกิจ สามารถรับสายด้วยการแนะนำตัวได้ ตามด้วยการแสดงความพร้อมในการทำงาน เช่น

   Diamond Point Call center. Vanessa Raymond speaking. May I help you?
   Diamond Point Call center ดิฉัน Vanessa Raymond ยินดีให้บริการค่ะ

   Hello, Gap Winning’s. How can I help you?
   สวัสดีค่ะ บริษัท Gap Winning ค่ะ มีอะไรให้รับใช้คะ

การแจ้งความประสงค์

โดยการใช้กริยาช่วย May ถือว่าสุภาพที่สุด ตามด้วย Could และ Can ตามลำดับ และสามารถเพิ่มคำว่า “please” เพื่อแสดงความสุภาพมากยิ่งขึ้นได้ เช่น

    May I speak to Mr.Hanes, please?
    รบกวนขอพูดสายกับ Mr.Hanes ค่ะ

    Could I talk to Mrs. Annette Anderson?
    รบกวนขอพูดสายกับ Mrs. Annette Anderson ค่ะ

    Can I speak with Andrew?
    ขอสาย Andrew หน่อยค่ะ

    I would like to talk with Rain.
    ฉันต้องการพูดสายกับ Rain

บางครั้งอาจไม่ได้แจ้งความประสงค์โดยตรง แต่เป็นการถามถึงบุคคลที่ต้องการสนทนาด้วย ว่าอยู่หรือเปล่า เช่น

    Is Norman there?
    Norman อยู่ที่นั่นหรือเปล่า?

    Is Paula in?
    Paula อยู่หรือเปล่า (ซึ่งเป็นการพูดย่อๆ เช่น อาจหมายความว่า Is Paula in the office?)

การถามความประสงค์


แต่หากในกรณีที่ผู้ที่โทรเข้ามาเพียงกล่าวทักทาย ยังไม่ได้แจ้งความประสงค์ ผู้รับก็สามารถตั้งคำถามได้ ดังนี้

   May I ask who you would like to speak to?
   ไม่ทราบว่าต้องการเรียนสายกับใครคะ? (สุภาพมาก)

   Who would you like to speak to?
   ต้องการเรียนสายกับใครคะ? (สุภาพมาก)

   Who are you calling for?
   ต้องการพูดกับใครคะ

หรือในกรณีที่ผู้ที่โทรเข้ามายังไม่ได้แนะนำตัว ผู้รับสายอาจถามด้วยประโยคที่ว่า

   May I ask who is calling, please?
   ไม่ทราบว่าใครโทรมาคะ (สุภาพ)

   Would you mind telling me your name?
   รังกียจไหมที่จะบอกชื่อของคุณ (สุภาพ)

   May I have your name, please?
   ขอชื่อคุณ (ผู้ที่โทรเข้ามา) ด้วยค่ะ

   Who is calling, please?
   ใครโทรมาคะ

   Your name, please.
   ขอชื่อคุณด้วยค่ะ
  
   Who is this?
   ใครพูดคะ

การรับโทรศัพท์ [Answering a phone call]

การรับโทรศัพท์อาจเป็นได้หลายกรณี คือบุคคลที่ต้องการสนทนาด้วยกำลังพูดสายอยู่ หรือหากยังไม่ใช่ ก็อาจต้องต้องเรียกให้หรือต่อสายให้ หรือบางทีอาจไม่สามารถรับสายได้ขณะนั้น เพราะไม่อยู่หรือติดสายอื่นอยู่ หรือติดธุระอยู่

หากบุคคลที่ต้องการสนทนาด้วยกำลังพูดสายอยู่ อาจพูดว่า

   Yes, Andrew speaking.
   ใช่ครับ ผม Andrew พูด

   Yeah, it’s me – Rain.
    ใช่ครับ ผมเอง Rain

แต่หากยังไม่สะดวกคุยในเวลานั้น อาจบอกว่า

   I’m quite busy now. Would you mind if I call you later?
   ตอนนี้ดิฉันค่อนข้างยุ่ง จะเป็นอะไรไหมถ้าดิฉันจะขอโทรกลับทีหลัง

   I’m sorry, I can’t talk right now. I’ll call you back.
   ต้องขอโทษด้วย ผมคุยตอนนี้ไม่ได้ เดี๋ยวผมโทรกลับ

   I’ve to run now. Can you call me again?
   ฉันต้องรีบไปแล้ว คุณช่วยโทรกลับมาใหม่ได้ไหม

หากผู้รับไม่ใช่บุคคลที่ต้องการสนทนาด้วย อาจต้องบอกให้รอสักครู่ โดยอาจกล่าวว่า (ซึ่งสามารถต่อท้ายด้วย “please” เพื่อเพิ่มความสุภาพได้) เช่น

  


ตัวอย่างเพิ่มเติม


ตัวอย่างที่ 1


   A: Hello, is Khun Bua there?
      (เฮลโล อีส คุณ บัว แดร์)
      สวัสดีครับ คุณบัวอยู่ไหมครับ

   B: Sorry she's gone out to the bank.
      (ซอร์รี่ ชีส์ กอน เอาท์ ทู เดอะ แบงค์)
       ขอโทษค่ะ คุณบัวไปธนาคารค่ะ

   A: Can I leave a message?
      (แคน ไอ ลีฟ อะ แมสเสจ)
       ฝากข้อความไว้ได้ไหมครับ

   B: Sure.
      (ชัวร์)
      ได้ค่ะ

   A: Can you please tell her to call Preeda before 6 pm if possible. I need to confirm our plane tickets to Phuket next week.
      (แคน ยู พลีส เทล เฮอร์ ทู คอล์ ปรีดา บีฟอร์ 6 พีเอ็ม อีฟ พอสซิเบิ้ล. ไอ นีด ทู คอนเฟิร์ม อาวร์เวอร์ เพลน ทิ๊กเก็ต ทู ภูเก็ต เน๊ก วีค)
       ฝากบอกคุณบัวให้โทรกลับหาปรีดาก่อนหกโมงเย็นได้ไหมครับ ผมต้องคอนเฟิร์มตั๋วเครื่องบินไปภูเก็ต อาทิตย์หน้าครับ

   B: Sure, I'll let her know. She should be back in about an hour.
      (ชัวร์ อัล เลท เฮอร์ โน. ชี ชู๊ด บี แบ๊ก อิน อะเบาวท์ แอน อาวเวอร์)
      ได้ค่ะ ฉันจะบอกให้นะคะ อีกประมาณหนึ่งชั่วโมงคุณบัวก็น่าจะกลับมาแล้วค่ะ

   A: Thank you very much.
      (แท๊งกิ้ว เวรี่ มัช)
      ขอบคุณมากครับ

   B: You're welcome. Bye.
      (ยัวร์ เวลคั่ม. บาย)
      ไม่เป็นไรค่ะ สวัสดีค่ะ

ตัวอย่างที่ 2

   A: Hello, may I speak to Khun Bua please?
       (เฮลโล เม ไอ สปีค ทู คุณ บัว พลีส)
       สวัสดีค่ะ ขอพูดกับคุณบัวได้ไหมครับ

   B: Sure. May I ask who's calling?
      (ชัวร์ เม ไอ อาร์สก ฮูส์ คอล์ลิ่ง)
      ได้ค่ะ ไม่ทราบใครโทรมาคะ

   A: It's Pla.
      (อิทส์ ปลา)
       ปลาค่ะ

   B:Wait a moment please I'll go get her.
     (เวท อะ โมเม้น พลีส อัล โก เกท เฮอร์)
     รอสักครู่นะคะ

   A:
Thank you.
      (แท้งกิ้ว)
      ขอบคุณค่ะ

ตัวอย่างที่ 3

   A: Hello.
      (เฮลโล)
      สวัสดีค่ะ

   B: Hello. Is this Siam Ocean World?
     (เฮลโล อีส ดีส สยาม โอเชี่ยน เวิลด์)
      สวัสดีค่ะ ที่นี่สยามโอเชี่ยนเวิลด์หรือเปล่าคะ


   A: Yes it is. May I help you?
      (เยส อิท อีส เม ไอ เฮลป ยู)
      ใช่ค่ะ มีอะไรให้ช่วยไหมคะ

   B: I'd like to know what time you're open until tonight.
      (ไอด์ ไลค์ ทู โน วอท ไทม์ ยัว โอเพ่น อันทิล ทูไนท์)
      ต้องการทราบว่าคืนนี้เปิดถึงกี่โมงคะ

   A: We're open until 10pm.
      (วีร์ โอเพ่น อันทิล 10 พีเอ็ม)
      เปิดถึงสี่ทุ่มค่ะ

   B:Thank you very much.
     (แทงกิ้ว เวรี่ มัช)
     ขอบคุณมากค่ะ

   A:You're welcome. Bye.
    (ยัวร์ เวลคั่ม บาย)
    ไม่เป็นไรค่ะ สวัสดีค่ะ

  May I
  Could I
  Can I
 speak to/ with
 talk to / with
  บุคคลที่ต้องการพูดสายด้วย?
 I would   like to  speak to/with
  talk to/with
  บุคคลที่ต้องการพูดสายด้วย.

Could you
Can you
waithold
hold on
hold the line
(for a while)(for a moment)
(for a minute)
(for a second)
 ?


   Could you hold the line?
   กรุณาถือสายรอสักครู่

   Could you wait for one moment, please?
   กรุณารอสักครู่

หรืออาจใช้เป็นรูปสั้นๆ ได้ ดังนี้

   Wait / Hold a moment.
   (Just) One moment.
   (Just) A moment.
   (Just) A minute.
   (Just) A second.
   Hold on.
   Hold up.
   รอสักครู่

หากบุคคลที่ต้องการสนทนาด้วยอยู่ในบริเวณนั้น (ไม่จำเป็นต้องโอนสายให้) โดยอาจเพิ่มได้ว่า

   One moment, please. I’ll call him for you.
   รอสักครู่นะคะ เดี๋ยวดิฉันไปเรียกเขาให้

   Hold on, I’ll get her.
   รอเดี๋ยว เดี๋ยวไปตามให้

หากต้องมีการโอนหรือต่อสายไปให้บุคคลที่ต้องการสนทนาด้วย อาจพูดว่า

   Wait a moment. I’ll connect you.
   รอสักครู่นะคะ ดิฉันจะต่อสายให้

   Could you hold on, please? I’ll put you through.
   กรุณารอสักครู่ ดิฉันจะต่อสายให้ค่ะ

   I’ll transfer you to the Marketing Department.
   ดิฉันจะโอนสายคุณไปที่แผนกการตลาดนะคะ

และเมื่อมีการโอนสายไปแล้ว ผู้ที่โอนไปก็ควรแจ้งผู้รับอีกต่อหนึ่งด้วย ว่ามีโทรศัพท์ถึง เช่น

   Hello, Mr.Bean, You’ve a phone call from Mr.Chang.
   สวัสดีค่ะ Mr.Bean คุณมีสายจาก Mr.Change ค่ะ

ฝ่ายผู้รับจึงควรกล่าวขอบคุณ เช่น

   Ok, thank you.
   ขอบคุณครับ

ในกรณีที่บุคคลที่ต้องการพูดสายด้วยไม่สามารถรับสายได้ขณะนั้น ผู้รับอาจบอกเหตุผลโดยเริ่มต้นประโยคด้วย I’m afraid … หรือ I’m sorry… หรือ อาจเริ่มเหตุผลเลยก็ได้ เช่น

   I’m afraid he is not available now.
   I’m afraid he is occupied now.
   ผมเกรงว่าเขาจะไม่ว่างตอนนี้

   I’m sorry she is out.
   เสียใจค่ะเธอไม่อยู่

   He’s in the meeting at the moment.
   ตอนนี้เขาประชุมอยู่ค่ะ

   She’s on another line.
   She’s on the phone now.
   เธอติดสายอยู่ค่ะ

หากเป็นการต่อสายไป แล้วสายไม่ว่าง อาจพูดว่า

   I’m sorry that number is engaged.
   ต้องขอโทษด้วยค่ะ สายไม่ว่าง

   ตอนนี้สายไม่ว่างค่ะ
   The line in busy now.

ในกรณีที่ไม่สามารถสนทนากับผู้ที่ต้องการได้ ฝ่ายที่โทรไปอาจขอฝากข้อความ หรือขอความช่วยเหลือ หรือฝ่ายผู้รับอาจต้องช่วยอำนวยความสะดวก โดยเสนอตัวที่จะรับฝากข้อความหรือให้ความช่วยเหลือ
การขอความช่วยเหลือ

   Could / Can you please take a message?
   ช่วยจดข้อความไว้หน่อยได้ไหมคะ

   May / Could / Can I leave a message, please?
   ขอฝากข้อความได้ไหมคะ

   Would you mind taking a message for me, please?
   จะเป็นอะไรไหมถ้าให้คุณช่วยจดข้อความไว่ให้หน่อย

   Could / Can you tell her that I called?
   Please tell her that I called.
   ช่วยบอกเธอได้ไหมว่าผมโทรมา

   Could / Can you ask her to call me back?
   Please ask her to call me.
   ช่วยบอกให้เธอโทรกลับด้วยนะครับ

   Do you have any idea when he is back?
   คุณพอจะรู้ไหมว่าเขาจะกลับเมื่อไร

การเสนอให้ความช่วยเหลือ

   May I take a message?
   Would you like to leave a message?
   ต้องการฝากข้อความอะไรไหมคะ

   Can I have your phone number, please?
   ขอเบอร์ติดต่อกลับด้วยค่ะ


   If you give me your phone number, I’ll ask him to call you back.
   ถ้าคุณให้เบอร์ติดต่อไว้ ผมจะให้เขาโทรกลับครับ

หากในการสนทนา ฝ่ายหนึ่งพูดเบา หรือพูดไม่ชัด อีกฝ่ายอาจกล่าวว่า

   Sorry, I can’t catch you.
   ขอโทษครับ ผมฟังไม่ทัน

   Could you say that again?
   พูดอีกทีได้ไหมคะ

   Excuse me, what did you say?
   ขอโทษนะคะ พูดว่าอะไรนะคะ

   Pardon. / Sorry. / Excuse me.
   I beg your pardon.
   ขอโทษค่ะ (คุณพูดว่าอะไรนะคะ)

โดยในบางครั้ง หากฝ่ายที่รับสายพูดประโยคดังกล่าวหลังจากที่ผู้ที่โทรเข้ามาบอกความประสงค์ และชื่อผู้ที่ต้องการพูดด้วย อาจหมายถึงไม่มีชื่อคนๆ นั้นที่หมายเลขนั้น
โดยฝ่ายผู้รับสาย อาจพูดว่า

   I think you’ve got the wrong number.
   ฉันคิดว่าคุณคงต่อผิดนะคะ

ส่วนฝ่ายที่โทรผิดเอง อาจต้องยืนยันหมายเลขหรือชื่ออีกครั้ง โดยพูดว่า

   Is that 0-2666-8888?
   นี่ใช่เบอร์ 0-2666-8888 ไหมคะ

   Are you Matt Timberland?
   คุณใช่ Matt Timberland หรือเปล่าคะ

และหากเป็นฝ่ายต่อผิด ต้องกลล่าวคำขอโทษ เช่น

   I’m sorry. I might have the wrong number.
   I'm sorry. I might dial the wrong number.

ในอีกกรณีที่ไม่ได้รับสายหรือไม่สะดวกคุย ขณะที่ฝ่ายหนึ่งโทรมาหา อีกฝ่ายก็ควรโทรกลับ โดยอาจพูดว่า

   I’m sorry I missed your call this morning.
   ขอโทษด้วยที่ไม่ได้รับสายเมื่อเช้านี้

   I’m returning your call from this morning.
   ผมโทรกลับมาจากที่คุณโทรมาเมื่อเช้านี้

   I heard you called me.
   ได้ยินว่าคุณโทรมาผม

สิ่งที่อาจเป็นไปได้อีก คือการโทรเข้าเครื่องตอบรับอัตโนมัติหรือ answering machine ซึ่งโดยทั่วไป เจ้าของเครื่องโทรศัพท์จะบันทึกเป็นชื่อหรือหมายเลขโทรศัพท์ไว้ และแจ้งให้ผู้ที่โทรเข้ามาฝากข้อความ เช่น

    Thank you for calling James & Marc. Our hours are 9 am – 5 pm, Monday - Friday. Please call back during these hours, or leave a message after the tone.
    ขอบคุณที่โทรมาที่ James & Marc เวลาทำการของเราคือ 9.00-17.00 น. วันจันทร์-วันศุกร์ กรุณาโทรกลับมาใหม่ในเวลาดังกล่าว หรือฝากข้อความไว้หลังเสียงสัญญาณ

    Hello, I’m Bob Marine. I can’t pick up the phone now. Please leave your message after a beep. Bye.
    สวัสดี ผม Bob Marine ตอนนี้ผมไม่สามารถรับสายได้ ฝากข้อความหลังเสียงสัญญาณได้เลยครับ บาย

ในการฝากข้อความเช่นกัน ผู้ที่โทรเข้ามาควรแจ้งชื่อ ข้อความหรือหมายเลขโทรกลับ

   Hello, this is Maggi. Could you please return my call? My number is 02-777-3333. Thank you.
   สวัสดีค่ะ นี่ Maggi ช่วยโทรกลับด้วย เบอร์ฉันคือ 02-777-3333 ขอบคุณค่ะ

   Hey Rach. It's Paula. Call me ASAP!
   ไง Rach นี่ Paula เองนะ โทรกลับฉันด่วนเลย!

ตัวอย่างบทสนทนาทางโทรศัพท์

ตัวอย่างที่ 1


          Tanaka: This is Tanaka. Is Steve in?
   Steve’s wife: Yeah, hold on a second. I’ll get him.
          Tanaka: Thank you.

ตัวอย่างที่ 2

          Lee: Room 3097, please.
  Operator: Can I have the guest’s name, please?
          Lee: Umm. Mrs.Rose Cassis, please. I’m Lee speaking.
  Operator: One moment, sir. …
                (speaking to Mrs. Rose) Hello, Mrs. Rose Cassis, you’ve a phone call from Mr.Lee.
        Rose:(speaking to the operator) Thank you.
                (speaking to Lee) Rose speaking.
         Lee: Hello, Rose. It’s Lee. How are you?


ตัวอย่างที่ 3

   Operator: Good morning, Lara Company. May I help you?
         Dean: I’d like to speak with Mr.Kents.
    Operator: Wait a moment, please. I’ll put you through. … Sorry, the line is busy. Would you like to leave a message?
         Dean: Yeah, please tell him to call Mr.Wong for the delayed delivery.
   Operator: Ok, Can I have your name and number, please?
         Dean: My name is Dean Komig and my number is 0-89-999-4444.
   Operator: Could you spell your name, please?
         Dean: Sure, D-E-A-N K-O-M-I-G.
   Operator: Thank you. I’ll give him the message.
         Dean: Thank you.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น